Personalized Marketing และ Google ads เสริมประสิทธิภาพในการตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างไร

 

personalized


          Personalized   Marketing และ Google ads ถูกนำมาร่วมใช้งานในการตลาดออนไลน์ เพื่อดึงลูกค้าให้อยู่กับคุณได้นานที่สุด ซึ่งการจะทำให้ Personalized Marketing เกิดประสิทธิภาพที่ดีต้องทำงานร่วมกับ Google Ads เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

  Personalized Marketing คือ การตลาดที่นำความต้องการของลูกค้ามาเป็นที่ตั้ง จนกลายเป็นการตลาดรุ่นใหม่ที่เน้นเรื่องเข้าใจความรู้สึกของลูกค้า โดยการเข้าใจนี้จะเจาะจงลงไปเป็นรายบุคคล เพราะคนในยุคนี้มีตัวเลือกมากขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องยึดติดที่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งเท่านั้น การตลาดแบบ Personalized ถูกนำมาร่วมใช้งานในการตลาดออนไลน์ เพื่อดึงลูกค้าให้อยู่กับคุณได้นานที่สุด ซึ่งการจะทำให้ Personalized Marketing เกิดประสิทธิภาพที่ดี และสามารถนำพากลุ่มเป้าหมายมาถึงสินค้าคุณได้อย่างตรงจุด ต้องทำงานร่วมกับ Google Ads เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากขึ้น การทำงานร่วมกันของทั้ง 2 ระบบนี้จะทำให้เกิดการตอบโจทย์ที่ดีได้อย่างไร ลองมาดูรายละเอียดดังต่อไปนี้  


1. ความสอดคล้อง

      Personalized Marketing คือ การตลาดที่กระตุ้นให้ลูกค้าได้รับรู้การมีอยู่ของสินค้า ด้วยระบบการแจ้งเตือนเรื่องสินค้าใหม่ ที่น่าสนใจ สินค้าขายดี และสินค้าที่กำลังจัดโปรโมชั่นต่างๆ ทำให้ลูกค้าไม่พลาดต่อสินค้าทุกประเภทที่คุณต้องการนำเสนอ เมื่อใช้งานร่วมกับ Google Ads ที่เป็นตัวช่วยโปรโมทสินค้า  ทำให้เกิดการทำงานที่สอดคล้องกันมากขึ้น เช่น เมื่อสินค้าใหม่เข้ามา การตลาด Personalized Marketing  จะเริ่มส่งข้อความไปสู่ลูกค้าพร้อมลิงค์สินค้า ส่วนโฆษณาของ Google นั้นจะนำแบนเนอร์โฆษณาสินค้าใหม่ของคุณออกไปโปรโมทตามเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ทำให้กลายเป็นการแจ้งเตือน 2 ด้าน

 2. พาลูกค้าสู่จุดหมายปลายทางได้สะดวก

      โฆษณาของ Google จะนำพาลูกค้าใหม่ไปสู่จุดหมายปลายทางได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น เพราะแต่ละแคมเปญจะถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้เหมาะสมต่อการโปรโมทของแต่ละธุรกิจมาก ดังนั้นถ้าต้องการตรงเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายแบบตรงจุดมากขึ้น ควรเลือกแคมเปญโฆษณาของ Google ให้เหมาะสม พร้อมนำการตลาด Personalized Marketing  มาเป็นตัวช่วยทำให้โฆษณาออกมาน่าสนใจและสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น

3. เข้าถึงความต้องการได้ดี

      เน้นการให้ประสบการณ์แก่ผู้ซื้อ  ทำให้เกิดความประทับใจและความต้องการกลับมาซื้อใหม่อีกครั้ง ดังนั้นถ้าใช้งานร่วมกับ Google Ads เป็นตัวช่วยโปรโมทสินค้าแบบตรงจุดและช่วยขยายชื่อเสียงแบรนด์ให้กว้างขึ้น สามารถเก็บเกี่ยวข้อมูลความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น

4. Keyword มีประสิทธิภาพ

      การตลาดที่เน้นทำให้กลุ่มเป้าหมายได้รับความพึงพอใจ  ทำให้มีข้อมูลของลูกค้าอยู่ในมือรายละเอียดต่างๆ ที่สามารถนำมาวิเคราะห์ เพื่อที่จะมองหา Keyword ที่เหมาะสมต่อตัวธุรกิจ  ถูกเลือกออกมามีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะรูปแบบการตลาด Personalized Marketing  จะสามารถเข้าถึงตัวลูกค้าได้ดีที่สุด จึงสามารถที่จะดึง Keyword สำคัญของสินค้าให้ออกมาตรงต่อกลุ่มเป้าหมายของตัวเองได้สูง

5. เก็บรายละเอียดได้ดีขึ้น

    การตลาดแบบ Personalized จะเป็นการเก็บข้อมูลของลูกค้าที่ค่อนข้างละเอียด เพราะจำเป็นจะต้องทำให้ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่เกิดความพึงพอใจต่อโฆษณาและตัวสินค้ามากที่สุด เมื่อนำมาใช้งานร่วมกับโฆษณาของ Google จะทำให้เก็บรายละเอียดของลูกค้าได้มากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

6. ถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น

    การตลาดแบบ Personalized Marketing  กำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในกลุ่มการตลาด เพราะเป็นตัวช่วยที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้ซื้อ พร้อมการเข้าตรงถึงความต้องการของผู้ซื้อแบบรายบุคคล  ดังนั้นการใช้งานร่วมกับ Google Ads จึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะดันให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้เร็วมากขึ้นเป็นเท่าตัว


    ถ้าคุณเป็นธุรกิจหนึ่งที่ต้องการจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าแบบตรงจุด  สามารถนำเสนอโฆษณาให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายและสามารถเพิ่มยอดขายได้จริง ไม่เปลืองค่าโฆษณาหรือไม่ต้องใช้งบประมาณในการโปรโมทมากจนเกินไป คุณควรนำการตลาดแบบ Personalized Marketing  มาผสมผสานเข้ากับ Google Ads เพื่อทำให้คุณได้รับประโยชน์ต่อการใช้งานของทั้งสองระบบมากที่สุดและนำพาธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จแบบรวดเร็วอีกด้วย



10 วิธี พิชิตนักการตลาดออนไลน์<< คลิ๊ก

ติดต่อสอบถามรับทำการตลาดออนไลน์ << คลิ๊ก



ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม